ทุกคนรู้ โลกรู้ว่าประเทศจีนนั้นมีแอพพลิเคชั่นที่ไม่เหมือนใคร แต่ทุกคนทราบหรือไม่ว่าตอนนี้มีแอพพลิเคชั่นไหนบ้างที่เป็นที่นิยมในหมู่คนจีน แล้วมันมีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง เจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน เพราะอย่างที่ทุกคนทราบประเทศจีนเป็นประเทศขนาดใหญ่ มีประชากรจำนวนมาก การเจาะตลาดให้ได้ทั่วทั้งประเทศ ทุกเพศ ทุกวัย จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และเนื่องจากประเทศจีนมีการแข่งขันสูง หลายๆ ครั้งจึงมีแอพพลิเคชั่นที่ทำออกมาในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่10แอพที่เรากำลังจะนำเสนอนี้เป็นแอพใหญ่ที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และยังเป็นแอพขวัญใจของเหล่าผู้ใช้ชาวจีน สงสัยกันแล้วใช่ไหมว่ามีแอพอะไรบ้าง ถ้าอยากรู้แล้วก็มาดูกันเลย

เริ่มด้วย Douyin กับ 快手 (Kuaishou ไคว่โส่ว) กันก่อน
     นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ Douyin (หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Tiktok) แอพพลิเคชั่นสำหรับลงคลิป และมีเพลงติดหูมากมาย ขนาดที่คนดังยังออกมาร่วมสนุกด้วย ถือว่าเป็นแอพที่ฮิตกันสุดๆ ในเวลานี้ ส่วน Kuaishou นั้นอาจไม่ได้เป็นที่รู้จักในประเทศไทยนัก แต่สำหรับประเทศจีนถือเป็นแอพพลิเคชั่นที่ไว้ลงคลิปสั้นที่มีชื่อเสียงพอตัวเลยทีเดียว เอ๊ะแล้วสองแอพนี้มันต่างกันยังไงหล่ะ ทำไมคนจีนต้องใช้สองแอพ เรามาดูตารางเปรียบเทียบกัน 

 DouyinKuaishou
1.ผู้ใช้งานคนจีนทางตอนใต้ / เน้นผู้ใช้ในเมือง / ผู้ใช้หลักอายุเฉลี่ย 19-24 / ผู้ใช้เพศหญิงมากกว่าเพศชาย / ผู้ใช้ส่วนมากจบปริญญาตรีขึ้นไป มีกำลังซื้อสูง / ผู้ใช้ให้ความสนใจในเนื้อหาเป็นหลักคนจีนทางตอนเหนือ / เน้นไปที่ผู้ใช้ในแถบชนบท / ผู้ใช้หลักอายุเฉลี่ย 25-34 / ผู้ใช้หญิงชายเฉลี่ยเท่ากัน / ผู้ใช้ให้ความสนใจในตัวบุคคลเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเวลาไลฟ์จะมีผู้ชมที่ติดตามมาชมเยอะกว่า
2.แนววีดีโอวีดีโอสมัยใหม่ มีความเป็นเอกลักษณ์ / วีดีโอที่เป็นที่นิยมจะมีวีดีโออื่นที่เนื้อหาคล้ายคลึงกัน / ผู้ใช้มีการเชื่อมต่อกันต่ำเนื้อหาวีดีโอส่วนมากเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน มีความหลากหลายสูง / วีดีโอไม่ได้เน้นเฉพาะกลุ่มทำให้มีสิทธิ์ถูกดูได้มากกว่า  
3.ขายของวีดีโอลิงก์กับหน้าสินค้า ทำให้ไม่ต้องกดค้นหา หน้าตาร้านค้าเป็นแบบง่าย / ระหว่างไลฟ์ขายสินค้าสามารถซื้อสินค้าได้ โดยระบบร้านค้าเชื่อมกับ Taobao / สามารถให้ของขวัญระหว่างไลฟ์เพื่อเป็นการสนับสนุนได้หน้าร้านค้ามีความเป็นระบบมากกว่าทำให้ผู้ซื้อเลือกใช้บริการเยอะ และสินค้ามีราคาที่ไม่สูง / สามารถซื้อสินค้าไปดูไลฟ์ไปได้ / สามารถให้ของขวัญระหว่างไลฟ์เพื่อเป็นการสนับสนุนได้

     ทั้งสองแอพนี้มีฟังก์ชั่นที่ไม่ต่างกันมากนัก อยู่ที่ผู้ใช้ว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน ถ้าเลือกไม่ได้ก็แนะนำให้โหลดไว้ทั้งส องแอพเลย  

 แอพที่ 3 Little Red Book (小红书) แอพพลิเคชั่นที่ให้อารมณ์คล้าย Instagram แต่เนื้อหาข้างในนั้นจะออกแนวการจดบันทึกแบบสั้นซะมากกว่า แน่นอนว่าเจ้าตัวแอพนี้มีผู้ใช้หลักเป็นผู้หญิง ที่เกิดปี 85 จนถึงปี 90 ลงไป ผู้ใช้มีกำลังซื้อระดับกลางไปจนถึงสูง โพสต์ที่ลงในแอพนี้จะเน้นไปที่ของกิน เครื่องสำอาง การช้อปปิ้งซะเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้ดึงดูดลูกค้าเพศหญิงได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นสินค้าที่ทำการรีวิวในแอพพลิเคชั่นนี้ยังเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีของสาวๆ ที่จะตามรอยไปซื้อกันอีกด้วย

แอพที่ 4 Wechat เจ้าแอพนี้ก็คงไม่ต้องพูดอะไรมากเพราะทุกคนน่าจะเคยเห็นหน้าค่าตากันมาแล้ว เจ้าแอพตัวนี้มีความเหมือน Line ที่เราใช้กัน แต่ต้องเตือนไว้ก่อนว่าเวลาติดต่อกับคนจีนอย่าไปขอไลน์เขาเชียว เพราะเขาใช้ไลน์ไม่ได้ เพราฉะนั้นการเข้าหาคนจีนเราต้องโหลด Wechat มาใช้ ฟังก์ชันของ Wechat มีความพิเศษอยู่หลายจุด ยกตัวอย่างเช่น เว็บออฟฟิเชียลที่คนกดติดตามสามารถขายสินค้าไปในตัวได้ หรือจะเปิดให้คนจองที่นั่งสำหรับมื้ออาหารแต่ละวันก็ทำได้ แอพเดียวจบ สะดวกสุดๆ นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเกมโดยที่ไม่ต้องโหลดแอพมาได้เลย มากไปกว่านั้นยังมีฟังก์ชันไลฟ์สดในกลุ่มได้ด้วยนะ กลุ่มลูกค้า Wechat ก็หลากหลาย เพราะเดี๋ยวนี้คนจีนเริ่มไม่นิยมใช้ QQ ในการติดต่อกันแล้ว ดังนั้น Wechat จึงมีบทบาทสำคัญมากกับคนจีน

อพที่ 5 Weibo (新浪微博) สำหรับแฟนๆ คอหนัง ซีรีย์จีนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า Weibo เป็นแอพที่ทำให้เราสามารถติดตามดารา นักร้องที่เราชื่นชอบกันได้ง่ายขึ้น ซึ่งตัวฟังก์ชันของ Weibo มีความคล้ายคลึงกับ Facebook ผสมกับ Twitter ที่ให้เราโพสต์และแชร์สิ่งต่าง ๆ นอกจากนั้นยังสามารถกดติดตามเพจ หรือเข้ากลุ่มที่เรามีความสนใจได้ด้วย แต่ความพิเศษของ Weibo ก็คงเป็นการที่เราสามารถแยกประเภทของคนที่เราติดตามได้ และถือเป็นช่องทางที่ทำให้คนติดตามข่าวสารได้แบบเรียลไทม์ ผู้ใช้หลักของ Weibo มีอายุน้อยลง โดยเฉลี่ยมีผู้ใช้อายุต่ำกว่า 25 ปีสูงถึง 57.4%

แอพที่ 6 Bilibili (哔哩哔哩)ที่สามารถเทียบได้กับ Youtube  แต่ที่ผู้คนพูดถึงแอพนี้กันหลักๆ ก็จะเป็นพวกการ์ตูน หรือพวกเกมต่าง ๆ ส่วนคลิปแนวอื่นก็ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน โดยคลิปที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทยมีผู้ชมสูงสุดถึง 4ล้านวิวเลยทีเดียว ผู้ใช้หลักของ bilibili คือผู้ใช้ที่เกิดปี 93 ขึ้นไป  ใครสายเกมหรืออนิเมะไม่ควรพลาด โดยเฉพาะสายเกมที่มีการไลฟ์สดการแข่งขันให้ดูกันอย่างเต็มอิ่ม
 

สุดท้ายแอพพลิเคชั่นจำพวก Ecommerce มีด้วยกันถึง 4 แอพ ได้แก่ Tianmao(天猫) JD(京东) Taobao(淘宝) และ Pinduoduo(拼多多) ทุกคนสงสัยไหมว่า 4 แอพนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ทำไมต้องโหลดมาไว้เต็มเครื่อง วันนี้เราจะมาแยกให้ดูกัน   

 TianmaoJDTaobaoPinduoduo
1.สินค้ามีความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจากเป็นร้าน official ที่ทางแบรนด์ดังๆ เปิดเองสินค้าจึงมีราคาสูงตามสินค้ามีการรับประกันราคาจึงแพงกว่า Taobao / สินค้าแนวทั่วไป เน้นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก  สินค้ามีหลายระดับราคา อยู่ที่ผู้ซื้อต้องการแบบไหน / สินค้ามีความหลากหลายสูง แต่ต้องระวังเรื่องของปลอมราคาสินค้าถูกที่สุด / ไม่มีการับประกันสินค้า / เป็นแนวร่วมกันหารราคาสินค้าเพื่อให้ได้ราคาถูก
2.รูปแบบการขายเจ้าของธุรกิจขายให้ผู้บริโภค  (B2C)เจ้าของธุรกิจขายให้ผู้บริโภค (B2C)การขายระหว่างผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค (C2C)ลูกค้ากับธุรกิจ (C2B)
3. กลุ่มลูกค้ากลุ่มคนที่มีกำลังซื้อกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ / ลูกค้าหลักอายุ 26-35 ปีกลุ่มคนทั่วไป / จำนวนผู้ใช้มากที่สุดเน้นกลุ่มคนแถบชนบท / กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อน้อย 

     เห็นไหมคะว่าแจกแจงนิดเดียวก็เห็นความแตกต่างเยอะแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงวิธีการขนส่งของแต่ละแอพอีก และรายละเอียดยิบย่อยอีกนะคะ  
     อย่างไรก็ดีแต่ละแอพล้วนมีจุดที่เหมือนกันนั่นก็คือใช้ภาษาจีนล้วนค่ะ อ๊ะๆ เริ่มงงแล้วใช่ไหมว่าเราจะมาแนะนำทำไม ก็ในเมื่อมันเป็นภาษาจีน ไม่เข้าใจเลยสักกะตัวเดียว นั่นก็เพราะบริษัท Millideas รอคอยที่จะได้ช่วยเหลือลูกค้าทุกท่านอยู่ หากท่านสนใจที่จะขยายตลาดไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ของจีน บริษัท Millideas พร้อมให้คำแนะนำท่าน โดยมีผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและชาวจีนซึ่งมีความชำนาญเฉพาะในด้านการตลาดจีนทั้งออนไลน์และออฟไลน์ช่วยท่าน ในการเริ่มนำสินค้ามาขายในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนและวางแผนการตลาดให้ท่าน รวมทั้งเรายังสามารถวางแผนการโปรโมทสินค้าที่กำหนดกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ท่านต้องการได้อย่างแม่นยำอีกด้วย หากท่านอยากประสบความสำเร็จในการบุกตลาดจีนนึกถึงบริษัท Millideas  พวกเรายินดีให้บริการค่ะ

Message us