“Huawei” น่าจะเป็นแบรนด์ที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะนาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ และปัจจุบันได้กลายเป็นแบรนด์โทรศัพท์มือถือชั้นนำของโลกอีกแบรนด์หนึ่งที่ถือว่าประสบความสำเร็จ สามารถแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟนแซงคู่แข่งขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้สำเร็จ จนขึ้นแท่นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และกลายเป็นแบรนด์จีนที่ได้รับการยอมรับในที่สุด แต่หากย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน หัวเว่ยถูกมองว่าเป็นเพียงแค่ “โทรศัพท์มือถือจีนแดง” ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าวันนี้จะมาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์แถวหน้าของตลาดสมาร์ทโฟนได้สำเร็จ หัวเว่ยมีกลยุทธ์หรือวิธีการทำการตลาดอย่างไร ลองมาดูกัน

1.พลิกจุดด้อยเป็นจุดแข็ง ปั้นตัวเองเป็นแบรนด์ประจำชาติจีน
 Huawei ยังมีสิ่งหนึ่งที่ถูกมองว่าเป็นจุดด้อย นั่นก็คือชื่อแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งมีความเป็นจีนสูง ตั้งแต่ยุคที่แบรนด์จีนยังไม่ได้รับความเชื่อถือและถูกมองว่าเป็นของไม่มีคุณภาพ แต่หัวเว่ยกลับเลือกที่จะไม่ใช่กลยุทธ์ “เปลี่ยนชื่อ” เหมือนที่ Lenovo เคยทำ ซึ่งแต่เดิมแล้ว พวกเขาเคยใช้ชื่อว่า Legend แต่ก็มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Lenovo เพื่อให้มีความเป็นอินเตอร์มากขึ้น แต่สิ่งที่หัวเว่ยทำคือ ยังคงใช้ชื่อเดิมที่มีความเป็นจีนไว้ แต่ได้ทำการยกระดับสินค้า แล้วปั้นให้แบรนด์ของพวกเขาเป็นเสมือนตัวแทนของประเทศจีน ซึ่งในยุคที่จีนกลายเป็นชาติมหาอำนาจแล้วนี่กลับกลายเป็นดีที่หลายฝ่ายคาดไม่ถึง

2.เจาะตลาดผู้ใช้ในประเทศให้เข้มแข็ง

Huawei เป็นตัวอย่างของแบรนด์จีนแรกๆที่พยายามสร้างกลุ่มลูกค้าและกลุ่มผู้บริโภคในท้องถิ่น หรือการทำการตลาดจีนให้เข้มแข็งและมั่นคง มากกว่าจะไปทำการตลาดต่างประเทศ ซึ่งก็สอดคล้องกับกลยุทธ์แรก เพราะเมื่อฐานในประเทศเข้มแข็งมากพอ พวกเขาก็กลายเป็นตัวแทนของแบรนด์มือถือจีนไปโดยปริยาย

3.เปิดรับความรู้ใหม่ทั่วโลก มุ่งวิจัยและพัฒนา

จุดด้อยอีกอย่างหนึ่งของ Huawei คือภาพลักษณ์ของสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ในอดีตมีข่าวในเชิงลบบ่อยว่า โทรศัพท์ใช้งานแล้วเกิดปัญหาบ่อย ไปจนถึงขั้นใช้แล้วเสี่ยงที่จะระเบิด แต่พวกเขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาเหล่านี้และได้แก้ไขปัญหาโดยการ ลงทุนในเรื่องการทำวิจัยพัฒนาด้านเทคโนโลยีโดยเปิดรับความรู้ใหม่ๆจากทั่วโลก มีการเปิดศูนย์ Research & Development (R&D) ในหลายๆประเทศมากกว่า 15 แห่งทั่วโลก และเลือกจากประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านนวัตกรรมเป็นหลัก ที่สำคัญคือ ศูนย์วิจัยที่ไปเปิดในแต่ละประเทศจะกำหนดทิศทางของการวิจัยด้วยเป้าหมายที่แตกต่างกันไป โดยไม่สนใจที่จะแข่งขันทำยอดขาย และไม่มีการแข่งขันงานวิจัยกันด้วย แต่เป็นการวางแผนแล้วเลือกดูว่า แต่ละประเทศเด่นด้านใด พวกเขาจึงจะทำ R&D ในด้านนั้นเป็นหลัก

จากกลยุทธ์ของ Huawei ที่กล่าวมานั้นจะเห็นได้ว่า หัวเว่ยมีการเรียนรู้และมุ่งพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อีกทั้งยังมองเห็นจุดเด่นและจุดด้อยของตัวเองแล้วนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น มีการทำการตลาดในประเทศจีนและต่างประเทศทำให้มีฐานลูกค้าที่เข้มแข็งและกลายเป็นแบรนด์ที่เป็นที่ชาวโลกยอมรับในที่สุด ดังนั้นการทำการตลาดก็มีส่วนช่วยให้แบรนด์สินค้าประสบความสำเร็จได้ หากต้องการทราบเกี่ยวกับการทำการตลาดในจีน รวมถึงเข้าการตลาดจีน การส่งสินค้าไปขายที่จีน การวางแผนการตลาดและโปรโมทสินค้าทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้เป็นที่รู้จักในตลาดจีน Millideas เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการตลาดจีนโดยเฉพาะ พร้อมที่จะให้บริการแก่ทุกท่านแล้ว